29 Sep 2021
ปริมาณน้ำฝนที่หนักหน่วงในช่วงนี้ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูงฉับพลัน นอกจากเหตุการณ์น้ำท่วมสูงแล้ว เรายังเห็นข่าวมากมายที่เป็นอุบัติเหตุจากน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นการจราจรสัญจรไม่ได้ น้ำทะลักจนเขื่อนแตก น้ำท่วมขังจนผู้คนใช้ชีวิตลำบาก แม้แต่โรงพยาบาลก็ได้รับผลกระทบจนคลังยาเกิดความเสียหาย อีกทั้งยังมีผู้เสียชีวิตจากการถูกน้ำซัดหาย ป่วยด้วยโรคฉี่หนูและเสียชีวิต ซึ่งความรุนแรงถือว่าสูงเข้าขั้นวิกฤตเลยทีเดียว แม้แต่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก็ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน หลายจังหวัดจึงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ดังนั้นท่านจึงต้องเตรียมรับมือน้ำท่วมเบื้องต้นด้วยการสร้างคันกั้นน้ำ เตรียมยกของขึ้นที่สูง ทำประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองน้ำท่วมเพื่อปกป้องทรัพย์สินของท่าน และเตรียมอาหารและยาให้พร้อม เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ได้ทันเวลา หากความรุนแรงเริ่มเพิ่มขึ้น MR.OOHOO แนะนำให้ท่านรีบอพยพไปอยู่ในที่สูง ในระหว่างเดินทางก็ไม่ควรขับรถยนต์ฝ่าลงไปในกระแสน้ำหลาก เพราะนอกจากจะเกิดอันตรายแล้วประกันรถยนต์อาจจะไม่คุ้มครองท่านอีกด้วย หลายๆท่านสงสัยกันใช่ไหมครับว่ากรณีไหนบ้างที่ประกันรถยนต์จะคุ้มครองและไม่คุ้มครอง MR.OOHOO มีคำตอบมาให้แล้วครับ เราไปดูกันต่อเลยย
ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้
การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที
เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ
ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม
รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์
เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ
ประกันชั้นไหนคุ้มครองน้ำท่วมบ้าง ? 1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์) 3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์) น้ำท่วมรถแบบไหนประกันคุ้มครอง ? 1. เกิดจากภัยธรรมชาติจนน้ำเข้ารถเสียหาย เช่น น้ำท่วม น้ำหลากไม่สามารถย้ายรถหนีได้ทัน 2. เหตุสุดวิสัย เช่น รถติดอยู่บนถนนไม่สามารถขยับไปไหนได้ในขณะที่มีฝนตกหนักจนน้ำท่วม ตัวถัง น้ำท่วมรถแบบไหนประกันไม่คุ้มครอง ? เจ้าของรถประมาทหรือจงใจฝืนขับฝ่าน้ำท่วมจนเกิดความเสียหายประกันภัยจะไม่คุ้มครองครับ เช่น สตาร์ทรถเมื่อรถอยู่ในสภาพที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว ขับรถไปในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการทำให้รถเสียหายจากน้ำท่วม 1. สูญเสียโดยสิ้นเชิง การสูญเสียโดยสิ้นเชิงในที่นี้คือกรณีที่น้ำท่วมมิดคันหรือท่วมเกินช่วงคอนโซลหน้า ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับทั้งห้องโดยสารครับ 2. เสียหายบางส่วน น้ำท่วมรถจนเสียหายบางส่วนคือกรณีที่ยังสามารถซ่อมกลับมาใช้ได้ ประกันภัยก็จะตีเป็นลักษณะความเสียหายบางส่วน บริษัทประกันจะรับผิดชอบซ่อมแซมรถให้กลับมาใช้งานได้ปกติ โดยที่ประกันรถยนต์นั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100% ครับ วิธีเคลมประกันภัยรถยนต์ 1. ถ่ายรูปรถขณะที่ยังมีน้ำท่วมขัง กรณีที่น้ำไม่ได้ท่วมมิดคันควรถ่ายให้เห็นทะเบียนรถ เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ารถคันที่เกิดเหตุเป็นรถที่ทำประกันไว้ 2. โทรแจ้งบริษัทประกันภัย เพื่อตรวจสอบกรมธรรม์และแจ้งเคลมทางโทรศัพท์ 3. นัดหมายเพื่อตรวจสอบสภาพรถกับเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยก่อนนำรถเข้าซ่อม 4. รอนำรถเข้าซ่อมหากสภาพรถยังสามารถซ่อมให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ถ้าหากสามารถซ่อมได้ประกันยินดีรับผิดชอบค่าซ่อมให้ 70% ของทุนประกัน แต่ถ้าหากบริษัทประกันประเมินว่า ไม่คุ้มค่าที่จะซ่อมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมประกันจะคืนเงินให้ 100% ครับ เบอร์โทรฉุกเฉินช่วยเหลือน้ำท่วม 1. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (สายด่วนรับแจ้ง - เตือนภัยน้ำท่วม) 1111 กด 5 2. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สายด่วนแจ้งเตือนสาธารณภัย) 1784 3. ร่วมด้วยช่วยกัน (ประสานความช่วยเหลือ) 1677 4. สภากาชาดไทย (สายด่วนรับแจ้ง - เตือนภัยช่วยเหลือสาธารณภัย) 1664 5. บริการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (นำส่งโรงพยาบาล/กู้ชีพ) 1669 6. ตำรวจทางหลวง กรมทางหลวง (สอบถามเส้นทางน้ำท่วม/ขอความช่วยเหลือ) 1193 7. ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท (สอบถามเส้นทางน้ำท่วม/ขอความช่วยเหลือ) 1146 8. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (สายด่วนข้อมูลภัยพิบัติ) 192 9. กรมอุตุนิยมวิทยา (สายด่วนข้อมูลสภาพอากาศ) 1182 10. กรมชลประทาน (สายด่วนข้อมูลสถานการณ์น้ำ - เขื่อน) 1460 ท่านยังสามารถเช็กการอัพเดทข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมของประเทศไทยได้ผ่าน SOS Alert ของ Google Search และ Google Maps โดยการพิมพ์ว่า “น้ำท่วมประเทศไทย” ก็จะพบข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ หากท่านอยู่ในบริเวณที่มีภัยพิบัติรุนแรง Google ก็จะแสดง Banner ว่ากำลังเกิดภัยพิบัติ และยังมีเบอร์ฉุกเฉินให้อีกด้วย นอกจากนี้ MR.OOHOO ยังมีแอปพลิเคชันของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเปรียบเสมือนคลังข้อมูลน้ำ มีทั้งรายงานสถานการณ์น้ำ แจ้งเตือนภัย ช่วยเหลือน้ำท่วม ให้ข้อมูลข่าวสาร แนะนำให้ท่านโหลดติดมือถือไว้เลยครับ 4 แอปพลิเคชันข้อมูลทางน้ำ 1. แอปพลิเคชัน ThaiWater รายงานสถานการณ์น้ำและอากาศของประเทศไทย 2. แอปพลิเคชัน DPM Reporter แจ้งเตือนสาธารณภัย 3. แอปพลิเคชัน WMSC ให้ข้อมูลข่าวสาร ช่วยรับมือน้ำท่วม 4. แอปพลิเคชัน DWR4THAI ให้บริการข้อมูลข่าวสารของกรมทรัพยากรน้ำ พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก 1. เชียงใหม่ (อ.จอมทอง) 2. สุโขทัย (อ.ศรีสัชนาลัย) 3. พิษณุโลก (อ.วังทอง อ.วัดโบสถ์) 4. ตาก (อ.เมือง อ.แม่สอด อ.พบพระ) 5. เพชรบูรณ์ (ต.วิเชียรบุรี อ.บึงสามพัน อ.ศรีเทพ อ.หนองไผ่) 6. นครสวรรค์ (อ.แม่วงก์ อ.ชุมตาบง อ.แม่เปิน) 7. อุทัยธานี (อ.บ้านไร่) 8. ชัยภูมิ (อ.เมือง อ.หนองบัวแดง อ.เทพสถิต) 9. นครราชสีมา (อ.ปากของ อ.วังน้ําเขียว อ.ปักธงชัย) 10. ชัยนาท (อ.เมือง อ.มโนรมย์ อ.สรรพยา อ.วัดสิงห์ อ.สรรคบุรี) 11. ลพบุรี (อ.ลําสนธิ อ.ชัยบาดาล อ.สระโบสถ์ อ.สระบุรี อ.แก่งคอย) 12. สุพรรณบุรี (อ.ด่านช้าง) 13. นครนายก (อ.เมือง อ.บ้านนา) 14. ปราจีนบุรี (อ.เมือง อ.นาดี) 15. สระแก้ว (อ.ตาพระยา) 16. ระยอง (อ.เมือง อ.บ้านค่า) 17. จันทบุรี (อ.เมือง อ.ขลุง อ.มะขาม อ.เขาคิชฌกูฏ) 18. ตราด (อ.เกาะช้าง อ.เขาสมิง) และถ้าหากท่านต้องการหาประกันรถยนต์ที่คุ้มครองน้ำท่วมก็สามารถเช็กราคาและเปรียบเทียบแผนประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจซื้อได้ที่ OOHOO(อู้หู) เรามีให้ท่านได้เลือกซื้อมากมาย โดยรับความคุ้มครองจากบริษัทประกันชั้นนำ แถมยังการันตีราคาถูก คุ้มค่าสุดๆ จะผ่อนบัตรเครดิตหรือผ่อนเงินสด 0% ก็ได้อีกด้วย หากท่านต้องการคำแนะนำเราก็มีเจ้าหน้าที่พร้อมบริการครับ วันนี้หลายท่านคงได้ข้อมูลเตรียมรับมือน้ำท่วมแล้ว ยังไงก็อย่าลืมป้องกันทรัพย์สินของท่านด้วยการทำประกันรถยนต์กันด้วยนะครับ