26 Jan 2024
หนึ่งในกิจกรรมสำหรับสายมู สายบุญ คงหนีไม่พ้นการไปไหว้พระ 9 วัด เพื่อขอพร เสริมสิริมงคลตลอดปี 2567 โดยในปี 2567 นี้ เป็นปีนักษัตรปีมะโรง หรือปีงูใหญ่ คนไทยเชื้อสายจีนบางคนเชื่อว่าเป็นปีมังกรทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรุ่งเรือง โชคลาภ และความโชคดี และถ้าเราได้เพิ่มแต้มบุญตั้งแต่ต้นปีก็จะยิ่งนำพาแต่ความสุขความสำเร็จ ทำมาหากินค้าขายขึ้นตลอดปี 2567 นี้แน่นอน
Mr. OOHOO เองก็ไม่รอช้า รีบรวบรวม 9 วัดดังมาให้เพื่อนๆ ได้ไหว้พระ ทำบุญ ขอพรกันตั้งแต่ต้นปี 2567 กันไปเลย แต่ก่อนจะไปไหว้พระ เสริมพลังบุญ อย่าลืมตรวจสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทาง รวมถึงเช็กว่าประกันรถยนต์ขาดหรือเปล่า ถ้าขาดหรือยังไม่มีประกันรถยนต์ ต้องที่เว็บไซต์ OOHOO.io เท่านั้น แหล่งรวมประกันรถยนต์ทุกประเภท ซื้อด้วยตัวเองง่ายตลอด 24 ชั่วโมง รับกรมธรรม์ออนไลน์ได้เลย เท่านี้พร้อมออกไปไหว้พระ 9 วัดแล้ว ก็มาดูลิสต์กันเลยว่ามีที่ไหนบ้างนะครับ
เริ่มต้นวัดแรกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าวัดพระแก้ว เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของคนไทย และยังเป็นศูนย์กลางความศรัทธาของชาวลาวและชาวจีน รวมถึงเป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวกรุงเทพมหานคร ต้องไปชมความงามที่วิจิตรบรรจง เปี่ยมด้วยศรัทธาที่นี่
วัดพระแก้ว เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนตอนต้นทำจากหินหยกสีเขียวเข้มทึบแสง ปางสมาธิ ในการไปกราบไหว้ และขอพรจากองค์พระแก้วมรกต เชื่อว่า ไหว้พระแก้วมรกต แก้วแหวน เงินทอง จะไหลมาเทมาตลอดปี ที่สำคัญหากมีการเปิดปราสาทพระเทพบิดร ซึ่งเป็นปราสาทจตุรมุขประดับกระเบื้องเคลือบองค์เดียวในประเทศไทย ที่ภายในมีพระบรมรูปหล่อของพระมหากษัตริย์ 9 พระองค์ให้เข้ากราบไหว้ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเป็นสิริมงคลสำหรับชีวิตมากขึ้นอีก ถือว่าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเริ่มต้นสิ่งดีๆ สำหรับชีวิตในช่วงปีใหม่ 2566 นี้
แผนที่ : วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เวลาเปิด-ปิด : 08.30-16.00 น.
หลังจากไหว้พระ ทำบุญที่วัดพระแก้วเรียบร้อยแล้ว ขยับลงมาที่วัดข้างเคียงที่เป็นอีกจุดหมายหนึ่งของชาวพุทธที่นิยมไปกราบไหว้พระขอพรปีใหม่เสมอ นั่นคือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ อยู่ใกล้กันหรือแทบจะติดกันกับวัดพระแก้ว มีเพียงถนนสายเล็กกั้นกลาง
โดยวัดโพธิ์มีเอกลักษณ์ในเรื่องรูปปั้นฤๅษีดัดตน ในอิริยาบถต่างๆ ทั้งหมด 24 ท่า โดยการไหว้วัดโพธิ์ยังมีความเชื่อในเรื่อง “ขอพรให้มีชีวิตที่ร่มเย็นเหมือนอยู่ใต้ร่มโพธิ์ร่มไทร” รวมทั้งยังมีความเชื่อในเรื่องการขอพรความรัก จากพระนอนหรือพระพุทธไสยาสน์ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ ยาว 46 เมตร สีเหลืองทองทั้งองค์ พระบาทซ้ายและขวาซ้อนเสมอกัน ใต้พระบาทประดับมุกภาพมงคล 108 ประการ
แผนที่ : วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-16.00 น.
ต่อมาที่วัดลำดับที่ 3 ที่ไม่ได้ไกลจากวันโพธิ์เท่าไหร่นัก นั่นคือ วัดสุทัศนเทพวราราม พระอารามหลวง ประจำรัชกาลที่ 8 โดยเริ่มสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นพระราชทานนามว่าวัดมหาสุทธาวาส โดยสร้างพระวิหารขึ้นก่อน เพื่อที่จะประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน จึงเรียกกันว่าวัดพระโต วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้า
จนในรัชสมัยของรัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อและทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยตัวพระองค์เอง แต่ก็สิ้นรัชกาลก่อน และมาเสร็จสมบูรณ์ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 และพระราชทานนามว่าวัดสุทัศนเทพวราราม
ภายในวัดโดดเด่นไปด้วยพระอุโบสถ ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย การไหว้พระศรีศากยมุนี จะเสริมสิริมงคล เพราะมีความเชื่อว่าไหว้พระวัดสุทัศนฯ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป และใครที่อยู่ในวัยเรียนก็ต้องไม่ลืมกราบไหว้พระสุนทรีวาณี เทพธิดาแห่งปัญญา โดยเชื่อว่าจะช่วยให้เกิดปัญญา มีสติปัญญาดี
แผนที่ : วัดสุทัศนเทพวราราม
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-16.00 น.
ยังอยู่ต่อกับเขตพระนครกับวัดที่ไม่ไกลจากวัดสุทัศนเทพวรารามมากนัก กระเถิบมาวัดข้างๆ นั่นคือ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยา ภายในพระอุโบสถหลังใหญ่ประดิษฐานพระประธาน พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ หรือที่เรียกว่า หลวงพ่อปู่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างจากปูนปั้นแล้วบุด้วยดีบุกลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตัก 2.5 เมตร สูง 3.5 เมตร
ภายในองค์พระ มีฉลองพระองค์ของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นแม่ทัพคนสำคัญ ในรัชกาลที่ 1 ชนะศึกสงครามหลายครั้ง รอบๆ หลวงพ่อปู่มีพระพุทธรูป 16 องค์ล้อมรอบ หมายถึง พุทธคุณชนะศัตรู ทำให้เชื่อว่าหากมากราบไหว้หลวงพ่อปู่ และสักการะสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทจะทำให้มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง
แผนที่ : วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-16.00 น.
เข้าสู่วัดลำดับที่ 5 แล้วนะครับ เลยออกจากเขตพระนครไม่ไกลก็จะพบกับวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เดิมชื่อวัดแหลม หรือวัดไทรทอง ภายหลังได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า วัดเบญจมบพิตร ซึ่งหมายถึงวัดของเจ้านาย 5 พระองค์ที่ทรงร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างสวนดุสิตขึ้น พระองค์ทรงสถาปนาวัดขึ้นใหม่และพระราชทานนามว่าวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม อันหมายถึงวัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมงดงามและโดดเด่น ด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมไทยโบราณที่มีการวางแปลนที่ดีที่สุดวัดหนึ่ง
อีกหนึ่งจุดเด่น คือมีการประดับด้วยหินอ่อนจากอิตาลี ทำให้เป็นที่รู้จักกันของต่างชาติ และเรียกว่า “Marble Temple” ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราชที่จำลองมาจากพิษณุโลก การไหว้พระในวัดนี้เชื่อว่าจะทำให้เรื่องหน้าที่การงานราบรื่น ประสบความสำเร็จ
แผนที่ : วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : 8.30-17.30 น.
ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้
การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที
เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ
ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม
รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์
เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ
เขยิบมาเป็นวัดลำดับที่ 6 ยังคงอยู่ในเขตดุสิตเช่นเดียวกัน นั่นคือ วัดราชาธิวาสวิหาร มีความหมายตรงตามชื่อว่า วัดอันเป็นที่ประทับของพระราชา โดยเป็นวัดแรกที่ถือกำเนิดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย จึงถือเป็นพระอารามหลวงฝ่ายธรรมยุต ภายในวัดโดดเด่นด้วย พระอุโบสถซึ่งเป็นทรงขอมคล้ายนครวัด ออกแบบโดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
ภายในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นผู้ร่างภาพ และ ศ.ซี.ริโกลี จิตรกรชาวอิตาเลียน เป็นผู้เขียนด้วยการใช้สีปูนเปียก การมาไหว้พระที่วัดแห่งนี้ มีความเชื่อว่า จะทำให้มีลาภยศที่ยิ่งใหญ่ เหมาะสำหรับใครที่อยากไปไหว้พระขอพรปีใหม่ 2566 และมีความหวังในการได้โปรโมตหน้าที่การงาน หรือรักษาตำแหน่งใหญ่เป็นอยู่
แผนที่ : วัดราชาธิวาสวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : 07.00-18.00 น.
ข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริเวณท่าเตียน มาที่วัดลำดับที่ 7 อย่างวัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร หรือวัดอรุณฯ หรืออีกชื่อวัดแจ้ง เป็นวัดโบราณที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดมะกอกนอก และถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2
จุดเด่นวัดอรุณฯ ที่ถือเป็นแลนด์มาร์กหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้คือ พระปรางค์ ที่ประดับตกแต่งไปด้วยกระเบื้องอย่างประณีต และยังมีประติมากรรมยักษ์ทศกัณฐ์ (สีเขียว) และยักษ์สหัสเดชะ (สีขาว) ยืนเฝ้าประตูทางเข้าพระอุโบสถ โดยมีพระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก เป็นพระประธานในพระอุโบสถ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะรัตนโกสินทร์
นอกจากนี้บริเวณวัดยังมีศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, ศาลาท่าน้ำรูปเก๋งจีน, โบสถ์น้อย, วิหารน้อย, พระวิหาร, พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย และอีกมากมาย โดยมีความเชื่อว่าหากไหว้พระปรางค์วัดอรุณฯ จะทำให้ชีวิตรุ่งโรจน์
แผนที่ : วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-17.00 น.
มาต่อกันที่วัดในโซนฝั่งธนบุรี สำหรับวัดลำดับที่ 8 ไม่ไกลจากวัดอรุณฯ มากนัก ใครอยากไหว้พระขอพรปีใหม่ ขอมีชื่อเสียงโด่งดัง ต้องไม่พลาดไปต่อกันที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือวัดระฆัง เป็นวัดโบราณที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดบางว้าใหญ่ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ยกเป็นพระอารามหลวง และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระมหาเถระรูปสำคัญ
ภายในวัดระฆังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ หอพระไตรปิฎก, พระอุโบสถ, พระวิหาร, พระปรางค์ และหอระฆัง พระประธานในพระอุโบสถ คือ หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ เนื้อทองสำริด หน้าพระพักตร์มีพระสาวก 3 องค์ นั่งประนมมือรับโอวาท พระประธานองค์นี้ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก
ครั้งหนึ่งเมื่อรัชกาลที่ 5 เสด็จฯ มาถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดระฆัง ได้มีพระราชดำรัสแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ ว่าไปวัดไหน ไม่เหมือนมาวัดระฆัง พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที จนทำให้พระองค์ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์ และมหาปรมาภรณ์ช้างเผือกแด่พระประธานองค์นี้ เป็นที่มาของนามว่า พระประธานยิ้มรับฟ้า ตั้งแต่นั้นมา การไหว้พระวัดระฆัง จะต้องตีระฆังปิดท้าย เพื่อจะได้มีชื่อเสียงโด่งดังก้องกังวานดุจระฆัง ดังความเชื่อที่ว่าไหว้พระวัดระฆัง แล้วจะมีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี
แผนที่ : วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
เวลาเปิด-ปิด :08.00-16.00 น.
เดินทางกันมาถึงวัดลำดับที่ 9 วัดลำดับสุดท้ายกันแล้ว โดยวัดนี้อยู่ใกล้ๆ กันกับวัดอรุณฯ และวัดระฆัง คือ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หรือวัดซำปอกง ได้รับพระราชทานนามจากรัชกาลที่ 3 และยังทรงสร้างพระวิหารหลวง รวมถึงได้พระราชทานพระประธาน คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ที่ชาวจีนนับถือมาก จนมีชื่อเรียกแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือซำปอกง โดยพระพุทธรูปปางมารวิชัยนี้ยังมีอีก 2 ที่คือ วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดอุภัยภาติการาม จังหวัดฉะเชิงเทรา รวม 3 วัดเท่านั้นในประเทศไทย
นอกจากนั้นยังมีหอมณเฑียรธรรมเถลิงพระเกียรติเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 4 และหน้าวิหารยังมีระฆังที่ใบใหญ่ที่สุดในประเทศ การไหว้หลวงพ่อซำปอกงมีคติความเชื่อว่าจะโชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี รวมทั้งจะขอเรื่องการงาน การเรียน การเงิน ค้าขายร่ำรวย และการกราบไหว้พระประธานปางปาลิไลยก์ ในพระอุโบสถ จะช่วยเสริมให้พบมิตรสหายที่ดีเหมือนดั่งชื่อวัดอีกด้วย ถือว่าเป็นวัดที่ต้องไปกราบไหว้ขอพรในช่วงปีใหม่นี้
แผนที่ : วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-16.00 น.
ครบทั้ง 9 วัดแล้วสำหรับการไปไหว้พระขอพรตลอดปี 2566 นี้ Mr. OOHOO เรียงลำดับมาให้แล้วว่าต้องไปวัดไหนก่อน จะได้เดินทางสะดวกเพราะอยู่ใกล้เคียงกันหมดเลย เพื่อนๆ สามารถไปแต่ละวัดโดยเรียงลำดับจากตามลิสต์ได้เลยนะครับ มีแผนที่ให้พร้อมจิ้มตามลิงก์ไปดูกันได้ แต่เดินทางเยอะไปหลายที่ขนาดนี้แล้วต้องมีประกันรถยนต์ติดรถไว้ด้วยจะได้สบายใจ Mr. OOHOO มาชี้เป้าแหล่งซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ง่ายที่สุดในสามโลก นั่นคือ เว็บไซต์ OOHOO.io ซื้อง่ายตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด คุ้มครองทันทีหลังซื้อ พร้อมแพ็กเกจส่วนลดจุกๆ อีก เทียบราคาได้เองจากหลากหลายบริษัทประกันชั้นนำยอดนิยมปี 2567 หลังไหว้พระ ทำบุญ ขอพรกันเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมหมั่นทำความดี คิดแต่สิ่งดีๆ จะได้มีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาในชีวิต Mr. OOHOO ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : thairath.co.th