Checklist ข้อแตกต่างรถยนต์ไฟฟ้า ระบบ Hybrid VS. Plug-in Hybrid

         เมื่อพูดถึง  Top list รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คงหนีไม่พ้นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพราะถูกออกแบบมาเพื่อลดการเผาไหม้เชื้อเพลิง รถยนต์ไฟฟ้า (EV)บางประเภทได้ผสานนวัตกรรมเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ลดการปล่อยมลพิษและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น 

         การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV) และรถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อมาใช้งาน  บทความนี้ Mr.OOHOO จะพาไปเจาะลึกข้อแตกต่างของรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดทั้งสองประเภทกัน

        แต่ก่อนอื่น การมองหาตัวเลือกมาคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าของเราก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องตัดสินใจเหมือน ๆ กันที่ OOHOO.io มีประกันรถยนต์ไฟฟ้า สามารถเทียบราคา เทียบความคุ้มครองจากหลายบริษัทชั้นนำกับเราได้ พร้อมรับส่วนลดไปเลยทั้งเว็บ ผ่อนได้ แม่ไม่มีบัตรเครดิต 

รถยนต์ไฟฟ้าระบบ  Hybrid VS. Plug-in Hybrid ต่างกันยังไง ไปดูกัน!!!

1.พลังงานแบตเตอรี่

         รถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV) ใช้ทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นระบบหลักในการเร่งความเร็ว แบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV) จะถูกชาร์จใหม่ผ่านการเบรก ซึ่งพลังงานจากการเบรกจะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า นำมาใช้ในการเร่งความเร็วนั่นเอง 

          ในทางกลับกัน รถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มีชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า สามารถชาร์จได้โดยการเสียบปลั๊กเข้ากับแหล่งพลังงานภายนอก   ใช้พลังงานไฟฟ้าได้เพียงอย่างเดียวก่อนที่เครื่องยนต์สันดาปภายในจะทำงาน รถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ยังสามารถสร้างพลังงานใหม่ด้วยการเบรกเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ ประโยชน์ คือ ทำให้มีระยะการขับขี่ไฟฟ้าที่ยาวขึ้นเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV)

2.ขนาดและความจุของแบตเตอรี่

         รถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV)  มีชุดแบตเตอรี่ที่เล็กกว่า ออกแบบมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ระหว่างการเร่งความเร็วและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง แบตเตอรี่เหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อให้มีความสามารถในการขับขี่ด้วยไฟฟ้า แต่ควรทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปไปพร้อม ๆ กัน

         รถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มีชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า พร้อมความจุที่เพิ่มขึ้น  ทำให้เดินทางได้ในระยะที่ไกลขึ้นโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว รถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) สามารถสร้างความสมดุลระหว่างระยะการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าและการใช้เครื่องยนต์สันดาปสำหรับการเดินทางไกลเมื่อยามจำเป็นได้

3.ระยะการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า
        รถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV) มีระยะการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างจำกัดเนื่องจากขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานเสริม สนับสนุนเครื่องยนต์และปรับปรุงการประหยัดเชื้อเพลิงเท่านั้น ดังนั้น รถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV) จึงต้องพึ่งพาเครื่องยนต์สันดาปเป็นหลักในการขับเคลื่อนรถยนต์
       รถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มีระยะการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ดีกว่า สามารถเดินทางไกลโดยใช้พลังงานไฟฟ้าก่อนที่จะสลับมาใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาป ทั้งนี้ การใช้พลังงานไฟฟ้าจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่น และความจุแบตเตอรี่ 

4.การชาร์จแบตเตอรี่
         รถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV) ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ภายนอกรถยนต์ เนื่องจากแบตเตอรี่ถูกชาร์จผ่านการเบรก บวกกับการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน แบตเตอรี่จะชาร์จโดยอัตโนมัติขณะขับขี่และการใช้งานตามความจำเป็นอื่น ๆ ระหว่างการเร่งความเร็ว 
          รถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) สามารถชาร์จได้โดยการเสียบปลั๊กเข้ากับแหล่งชาร์จแบตเตอรี่รูปแบบต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็ม 100%  ทำให้มั่นใจได้ว่ามีระยะการขับขี่นานขึ้น  ชาร์จไฟได้ที่บ้านโดยใช้เต้าเสียบไฟบ้านมาตรฐานหรือที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้สะดวก
           Mr.OOHOO ขอ บอกต่อเคล็ด(ไม่)ลับ ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม!  เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังสงสัยเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ไปติดตามกันได้เลยครับ

           โดยสรุปแล้ว ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV) และรถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อยู่ที่แหล่งพลังงาน ขนาดและความจุของแบตเตอรี่ ระยะการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า และข้อกำหนดในการชาร์จแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด (HEV) ทำงานโดยใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่าเพื่อช่วยเสริมการทำงานเครื่องยนต์สันดาปเป็นหลัก ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า ทำให้มีระยะการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้านานขึ้น แต่ต้องอาศัยการชาร์จแบตเตอรี่จากเครื่องชาร์จ  หากเพื่อน ๆ ต้องการเคล็ดลับ ขับรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม วิ่งได้ไกลขึ้น ก็ไปติดตามกันได้ Mr.OOHOO เคยทำบทความให้อ่านกันแล้ว

          ที่สำคัญอย่าลืมมองหาประกันรถยนต์ไฟฟ้าติดรถเอาไว้ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับความคุ้มครอง เดินทางอย่างมั่นใจ ไม่ต้องเป็นกังวล ที่ OOHOO.io เป็นแพล็ตฟอร์มรวมประกันออนไลน์ ยกทัพประกันรถยนต์ไฟฟ้ามาไว้ที่เดียว สามารถเข้าไปเทียบราคา เช็กความคุ้มครองได้เอง ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะ อู้หู! เป็นประกันออนไลน์ ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ จบง่ายในเว็บเดียว