07 Mar 2024
หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันตัวตน และสัญชาติของเพื่อน ๆ ช่วยให้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ และยังทำหน้าที่เป็นหลักฐานว่าเป็นใคร มาจากไหน โดยทั่วไปจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเมื่อข้ามไปต่างประเทศและยังสามารถใช้เป็นเอกสารสำคัญในการระบุตัวตนเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น การขอใบอนุญาตขับรถ และอื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้ Mr. OOHOO มี 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพาสปอร์ตที่เพื่อน ๆ ยังไม่รู้มาฝากกันครับ
เพื่อน ๆ รู้กันดีว่า “พาสปอร์ต” หรือ “หนังสือเดินทาง” คือ เอกสารสำคัญที่นักเดินทางต้องพกติดตัวเสมอ เมื่อเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วเพื่อน ๆ รู้หรือไม่ พาสปอร์ตเล่มบาง ๆ ที่เพื่อน ๆ ถือไว้นั้น มีประโยชน์มากกว่าที่คิดอีกนะครับ ส่วนมีเรื่องไหนบ้างนั้น ลองไปดูกันครับ
1. พาสปอร์ตไม่ได้มีแค่สีเดียว
ถ้าเกิดว่าเพื่อน ๆ คนไหนจับสังเกตได้คงพอจะรู้ว่า พาสปอร์ตนั้น แท้จริงแล้วมีหลากหลายสีมาก ๆ เลย ซึ่งแต่ละสีก็มีความหมายซุกซ่อนอยู่ เช่นกลุ่มประเทศแถบยุโรปนิยมใช้สีแดงเข้ม หรือสีเลือดหมู พาสปอร์ตไทยเองก็ใช้สีนี้ กลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ใช้สีเขียว กลุ่มประเทศที่แยกตัวออกมาจากยุโรป เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียใช้สีน้ำเงินเข้ม หรือสีน้ำทะเล เป็นต้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสีของพาสปอร์ตอีกอย่าง คือ พาสปอร์ตประเทศไทย ยังแบ่งสีพาสปอร์ตออกไปได้อีก เช่น
- สีเลือดหมู จะเป็นหนังสือเดินทางที่ทางกระทรวงต่างประเทศ ออกให้กับบุคคลธรรมดา โดยมีอายุของหนังสือเดินทางไม่เกิน 5 ปี
- สีน้ำเงินเข้ม จะเป็นหนังสือเดินทางที่ออกให้ข้าราชการ สมาชิกรัฐสภา ที่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ รวมถึงบุคคลอื่นใดที่เดินทางไปทำประโยชน์ทางราชการตามที่กระทรวงต่างประเทศกำหนด โดยหนังสือเดินทางประเภทนี้จะมีอายุไม่เกิน 5 ปี
- สีแดงสด เป็นพาสปอร์ตนักการทูต มีอายุ 5 ปี และไม่สามารถต่ออายุได้ หากนักการทูตทำหายรัฐบาลจะมีการทำหนังสือแจ้ง “ยกเลิกใช้หนังสือเดินทาง” ไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก เพื่อป้องกันมิให้มีผู้ปลอมแปลงสวมสิทธิ์ และนำไปก่อเหตุร้ายได้
- สีเขียว หนังสือเดินทางนี้ถูกเเบ่งออกเป็น 2 จำพวก คือ หนังสือเดินทางของพระภิกษุที่ถูกอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศโดยมหาเถรสมาคม เเละอีกพวกหนึ่ง คือ หนังสือเดินทางที่ออกให้ชาวมุสลิมเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์โดยหนังสือเดินทางประเภทนี้จะมีอายุ 2 ปี เท่านั้น
2. พาสปอร์ตเท่ากับบัตรประชาชนสากล
ในบางประเทศ พาสปอร์ตมีหน้าที่เป็นเหมือนเอกสารสำหรับระบุตัวตนใช้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมไปถึงใช้จดทะเบียนสมรส ใช้ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์เลยทีเดียว เพราะพาสปอร์ตมีการใส่ข้อมูลสำคัญ เช่น สถานะสมรส ที่อยู่อาศัย ทะเบียนการย้ายที่อยู่ แบบครบ จบในเล่มเดียว ส่วนมากพาสปอร์ตประเภทนี้จะใช้กันในกลุ่มเครือรัฐเอกราช (ประเทศที่ประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียต) และรัสเซีย และมีอายุใช้งานยาวนานกว่า 5 ปีด้วย
3. ความหมายของแถบตัวเลขบนพาสปอร์ต
เรื่องน่ารู้ที่เพื่อน ๆ รู้แล้วอาจต้องร้องว้าว คือ แถบตัวเลขบนหน้าแรกของพาสปอร์ต ที่เปิดสมุดมา เจอกับรูปถ่ายหน้าตรงของเรา ถ้าลองสังเกตุที่แถบตัวเลขด้านล่างจะพบว่ามีตัวเลขเรียงกันยาว ๆ ที่เหมือนโค้ดลับอะไรสักอย่าง ความจริงแล้ว ตัวเลขแต่ละตัวล้วนมีความหมายเกี่ยวข้องกับเจ้าของพาสปอร์ตอยู่ โดยจะแบ่งออกเป็น
ที่มารูปภาพ trueid
- แถวบน ตัวอักษรแรก คือ รหัสเดียวกับเลขพาสปอร์ต (รหัส (Type) ‘P’ เป็นอักษรย่อสำหรับคำว่า “Passport”)
- แถวล่าง หมายเลขเดียวกันกับหมายเลขพาสปอร์ต
- อักษรย่อสัญชาติ (“THA” สำหรับประเทศไทย)
- วันเกิด เรียงด้วย ปี-เดือน-วัน
- เพศ
- วันหมดอายุหนังสือเดินทาง เรียงด้วย ปี-เดือน-วัน
- หมายเลขบัตรประชาชน
ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้
การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที
เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ
ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม
รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์
เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ
4. พาสปอร์ต ไม่ใช่วีซ่า อย่าสับสน
พาสปอร์ต เป็นหนังสือเดินทางสำหรับใช้แสดงตนในต่างประเทศ โดยพาสปอร์ตกับวีว่าไม่ใช้สิ่งเดียวกัน แต่มีความเกี่ยวข้องกัน ก่อนจะเดินทางต้องนำพาสปอร์ตไปขอวีซ่าจากสถานทูต/สถานกงสุลของประเทศที่ต้องการจะไป ส่วนความสำคัญของ วีซ่า คือ เป็นบัตรผ่านเข้าประเทศ ที่แต่ละประเทศจะขอเรียกดูจากคนสัญชาติอื่น เพื่ออนุญาตให้คนสัญชาติอื่นๆ เดินทางเข้ามายังประเทศตนได้
ทั้งนี้ มีบางประเทศที่อนุญาตให้ทำ Visa on Arrival ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามายังประเทศนั้น ๆ และขอวิซ่าได้ที่สนามบินเลย สำหรับนักท่องเที่ยวจากจีน, อินเดีย, คาซัคสถาน, ภูฏาน ฯลฯ สามารถเดินทางมาทำวีซ่าได้ที่ด่านสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อพำนักในประเทศไทยไม่เกิน 15 วัน
ส่วนคนไทยเองสามารถใช้หนังสือเดินทางธรรมดาเดินทางโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ถึง 32 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง มัลดีฟท์ ฟิลิปปินส์ ฯลฯ แต่ละประเทศก็จะมีจำนวนวันที่พำนักได้ไม่เท่ากัน
5. ไม่ทุกคนที่ต้องใช้พาสปอร์ต
เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า พระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ไม่จำเป็นต้องมีพาสปอร์ต เนื่องจากตามกฏหมายระบุให้พระราชินีอังกฤษเป็นผู้ออกหนังสือเดินทางอย่างเป็นทางการ พูดง่ายๆ คือท่านทรงให้ยืมถือพาสปอร์ต ทำให้เป็นบุคคลเดียวในอังกฤษที่ไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือเดินทางนั่นเองครับ ส่วนกลุ่มประเทศในบางภูมิภาคก็มีอนุญาตให้มีการใช้บัตรประชาชนแทนพาสปอร์ต เช่น ประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS), สหภาพยุโรปและประเทศใกล้เคียงบางประเทศ, คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) และกลุ่มตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง
6. พาสปอร์ตบางเล่มก็เข้าบางประเทศไม่ได้
จากสถานการณ์ทางการเมืองหรือจากความขัดแย้งทางสงครามในแต่ละประเทศ ทำให้บางประเทศมีการห้ามไม่ให้คนจากอีกประเทศเดินทางเข้ามาได้ ทำให้คนที่ถือพาสปอร์ตบางประเทศก็ไม่สามารถใช้สิทธิในการเดินทางเข้สประเทศต้องห้ามต่าง ๆ ได้ เช่น พาสปอร์ตของปากีสถานไม่สามารถใช้เดินทางเข้าอิสราเอลได้ หรือประเทศอาเซอร์ไบจานก็ห้ามผู้ถือพาสปอร์ตอาร์เมเนียเข้าประเทศจากเหตุสงคราม เป็นต้น แต่ประเทศไทยเรายังไม่มีประเทศต้องห้ามที่เดินทางเข้าไม่ได้นะครับ
7. หลากภาษาในเล่มเดียว
บางครั้งชื่อเรียกประเทศในภาษาท้องถิ่น กับชื่อที่คนทั่วโลกรู้จัก อาจไม่เหมือนกัน เช่น ประเทศ Albania มีชื่อราชการว่า Shqipëria (ฌิ-เปรีย) และบางครั้งตัวเจ้าของพาสปอร์ตเองอาจไม่เข้าใจภาษาอังกฤษก็ได้ นั่นจึงต้องมีการกำหนดให้ในพาสปอร์ตมีภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นได้ 1 ภาษา และภาษาสากลอีก 1 ภาษา ในบางประเทศมีถึง 3 ภาษาเลยด้วยซ้ำ เช่น พาสปอร์ตเบลเยี่ยม มีทั้งภาษา ดัตช์, ฝรั่งเศส และเยอรมัน โดยไม่มีภาษาอังกฤษ ส่วนของพาสปอร์ตไทย มีแต่ภาษาอังกฤษล้วน แม้สมัยก่อนพาสปอร์ตไทยเองก็มีแต่ภาษาฝรั่งเศส ไม่มีภาษาไทยด้วยซ้ำ
8. เก็บมากกว่าแค่ข้อมูลส่วนตัว
นอกเหนือจากข้อมูลทั่วไปอย่างวันเกิด สัญชาติ รูปถ่าย ฯลฯ แล้ว บางประเทศอาจเก็บละเอียดกว่านั้นเพื่อป้องกันภัยระหว่างประเทศ เช่นอิสราเอลจะเก็บข้อมูลด้านชีวภาพของผู้ถือ กระทั่งความห่างระหว่างดวงตาทั้ง 2 ข้าง และโครงสร้างกระดูกสำหรับระบุลักษณะทางกายภาพ และชีวมิติเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสารอีกด้วย
9. รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของพาสปอร์ต
ท่ามกลางรายละเอียดที่เป็นข้อมูส่วนบุคคล นอกจากความละเอียดรอบคอบของพาสปอร์ตแต่ละเล่ม ยังมีภาพน่ารักซ่อนอยู่ให้เจ้าของพาสปอร์ตไปอวดเพื่อนต่างชาติ เช่น ประเทศฟินแลนด์ จะมีรูปกวางมูสในเล่ม และหากกรีดหน้าหนังสือเดินทางเร็วๆ จะเห็นกวางเดินเคลื่อนที่ได้ หรือถ้าเป็นพาสปอร์ตของอเมริกา หน้าพาสปอร์ตแต่ละหน้าจะมีเล่าเรื่องประวัติศาสตร์การสร้างชาติของอเมริกันชน
ที่มารูปภาพ sanook
ประเทศไทยเองก็ไม่น้อยหน้า มีรูปน้องช้างยกงวงขึ้นลงเวลากรีดดูทั้งเล่ม ส่วนพาสปอร์ตแบบใหม่ที่กรมกงศุลออกแบบมา หน้าหนังสือเดินทางทุกหน้าจะพิมพ์ภาพสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ พร้อมคำบรรยายสถานที่เพื่อให้ดูเพลิน ๆ ระหว่างนั่งรอขึ้นเครื่องบินหรือเดินทางไม่มีเบื่อนั่นเองครับ
10.ความลับที่ซ่อนอยู่ของพาสปอร์ต แค่ลองใช้ไฟส่องดู
ที่มารูปภาพ trueid
ความน่าสนใจอีกอย่างของ พาสปอร์ต คือ มีรายละเอียดบางอย่างที่จะปรากฎชัดเมื่อใช้ไฟ แบล็กไลท์เท่านั้น หรือสะท้อนแสงแบบ UV เท่านั้น นอกจากสีสันสดใสแปลกใหม่แล้ว แต่ยังช่วยป้องกันการปลอมแปลงอีกด้วย โดยรายละเอียดของลวดลายดังกล่าว พาสปอร์ตแต่ละประเทศก็จะแตกต่างกันออกไป ส่วนของประเทศไทยก็ไม่แพ้ชาติอื่น ลองหยิบพาสปอร์ตมาส่องไฟลองดูว่าเห็นเป็นรูปอะไรกัน!
เห็นไหมครับว่าพาสปอร์ตมีอะไรมากกว่าที่เพื่อน ๆ คิด ไม่ใช่แค่หนังสือเดินทางเล่มบาง ๆ ที่ไว้ใช้ประทับตราสวย ๆ เก็บสะสมเวลาที่เราผ่านเข้าออกแต่ละประเทศเท่านั้น แต่หากเพื่อน ๆ รู้จักสิทธิของนักท่องเที่ยวและการใช้พาสปอร์ตที่เหมาะสม เราก็จะได้ประโยชน์อีกหลากหลายจากการใช้งานเล่มพาสปอร์ตของเพื่อน ๆ นะครับ
การจะเดินทางไปต่างประเทศ เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม ยื่นวีซ่าให้ผ่านแล้ว ต้องมี ประกันเดินทาง ติดตัวไปด้วย ที่ OOHOO.io มีแผนประกันการเดินทางต่างประเทศมากมาย คุ้มครองครอบคลุม แพ็กเกจรายเที่ยว-รายปีก็มีครบ ถ้าเป็นทริปครอบครัวก็ยิ่งคุ้มค่า รับสิทธิพิเศษในการใช้บริการให้ความช่วยเหลือด้านการเดินทาง (Travel Assistance) ตลอดทริป ซื้อตอนนี้ พร้อมรับกรมธรรม์ออนไลน์ได้ที่บ้านได้เลย เพราะ อู้หู! เป็นประกันออนไลน์
ที่มาข้อมูล : trueid
บทความที่น่าสนใจ
ยาสามัญ ที่ต้องมีติดกระเป๋าขึ้นเครื่องไปต่างประเทศ
รู้ไว้ก่อนบิน 9 สิ่งของ "ต้องห้าม" ไม่อนุญาตให้นำติดตัวขึ้นเครื่อง
แจกพิกัดทำพาสปอร์ต ทั่วกรุงเทพฯ