10 Apr 2024
สำหรับมือใหม่ อยากได้รถยนต์คันแรกเป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV มีอะไรที่เตรียมตัวรับมือเพียบ! ทั้งเรื่องความแตกต่างของเครื่องยนต์ ที่ซึ่งมีแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อน ไม่เหมือนกับรถยนค์สันดาปทั่วไป ทั้งเรื่องของการชาร์จแบตดตอรี่ และความพร้อมของสถานีชาร์จต่าง ๆ บทความนี้ Mr.OOHOO รวบรวมข้อมูลสำคัญที่จะทำให้มือใหม่ได้เตรียมพร้อมเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
ขับรถยนต์ไฟฟ้า EV ก็ต้องมีประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV ไว้ด้วย เรื่องหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ ความคุ้มครอง ยิ่งเป็นมือใหม่ มีรถยนต์คันแรก ต้องทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 ที่ OOHOO.io เท่านั้น คุ้มครองสูง ค่าเบี้ยถูกกว่า เช็กราคาทันใจ เทียบเบี้ยจากหลายบริษัทประกันพร้อมกันในทีเดียว ที่สำคัญ ซื้อตอนนี้ คุ้มครองทันที ผ่อนจ่ายเงินสด 0%
เอาใจมือใหม่หัดขับ อยากมีรถยนต์ไฟฟ้าEV เป็นคันแรก
เตรียมพร้อมเรื่องอะไรบ้าง Mr.OOHOO มีคำตอบ
1.ลักษณะการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า
ก่อนที่เราจะออกรถใหม่มาขับ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์คันแรก หรือรถยนต์คันที่ 2 3 4 ก็ต้องมีจุดประสงค์ในการใช้งาน ไม่เว้นแม้แต่รถยนต์ไฟฟ้าที่เพื่อน ๆ ต้องรู้ดีว่าลักษณะการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะซื้อ เป็นการนำมาใช้เดินทางไปทำงาน ไป-กลับระยะทางสั้น ๆ ใช้งานเป็นประจำทุกวัน หรือ ขับออกต่างจังหวัดบ่อยครั้ง ๆ เพื่อให้การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเหมาะสมกับความจำเป็น
หากต้องเดินทางไกล จะได้เลือกแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ จุไฟฟ้าได้เยอะ หรือมองหาสถานทีชาร์จระหว่างเดินทาง รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการใช้งานประกอบด้วย เช่น หากเพื่อน ๆ เลือกรุ่นที่มีความจุแบตเตอรี่เยอะ ตัวรถยนต์ไฟฟ้าก็จะต้องแบกน้ำหนักของแบตยิ่งน้ำหนักรถเยอะก็จะทำให้การใช้งานจะยิ่งเปลืองพลังงานมากขึ้น สิ่งนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นนั่นเอง
2.รอบรู้เรื่องแบตเตอรี่ไฟฟ้า
สิ่งหนึ่งที่มือใหม่อยากมีรถยนต์ไฟฟ้าไม่รู้ไม่ได้เลย คือ แบตเตอรี่ ที่เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งแบตเตอรี่จะมีหน่วยเป็น kWh บอกถึงความจุแบตเตอรี่ทั้งหมดที่ใส่มาในตัวรถยนต์ ส่งผลต่อน้ำหนักของรถยนต์ไฟฟ้า
แบตเตอรี่ในปัจจุบันขนาด 60-100 kWh จะมีน้ำหนักโดยประมาณอยู่ที่ 385-544 กิโลกรัม และสเปคแบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะมีการออกแบบระบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับแบตเตอรี่ ถึงแม้ว่าเพื่อน ๆ จะใช้งานแบตเตอรี่จนเหลือ 0% แต่รถก็ยังสามารถวิ่งต่อไปได้อีกสักพัก (Miles After Zero Indicated Range) จนกว่ารถยนต์จะดับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรปล่อยให้แบตไม่เหลือเลยนะครับ
ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้
การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที
เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ
ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม
รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์
เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ
3.แม่นยำเรื่องระยะทาง
อย่างที่หลายคนรู้ดีว่าข้อจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้า คือ ระยะทางกับการใช้พลังงานแบตเตอรี่ โดยรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นจะมีความสามารถในการวิ่งกี่กิโลเมตรในการชาร์จเต็ม 100%แตกต่างกันออกไป ซึ่งการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยเช่น การเปิดแอร์ สภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ รวมถึงลักษณะการขับขี่ หากมั่นใจว่าจะใช้งานรถยนต์ให้คุ้ม โดยวิ่งในระยะทางไกล ๆ ก็ควรที่จะถนอมแบตเตอรี่ภายใต้สภาพอากาศในประเทศไทยที่ค่อนข้างร้อน และหากเพื่อน ๆ อาศัยหรือต้องเดินทางไปในเส้นทางการจราจรติดขัด ก็ควรกะระยะทางและประเมินความจำเป็นในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ไปด้วย
4.เข้าใจอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าในเครื่องยนต์
อัตราการใช้พลังงานรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้า EV มีหน่วยเป็น Wh/km อ้างอิงมาจากการเทียบใน 1 km ว่าเราใช้พลังงานในการวิ่งรถไปมากเท่าไหร่ ยิ่งวิ่งได้ตัวเลขน้อยแสดงว่าเรายิ่งขับได้ประหยัดมากขึ้น ตัวเลข Wh/km นั้นจะเป็นค่าที่เอาไว้ใช้วัดประสิทธิภาพของรถ EV แต่ละคัน รวมถึงนำมาใช้คำนวณระยะทางว่ารถเราวิ่งได้กี่กิโลเมตร เมื่อเทียบกับอัตราการใช้พลังงานนั้นๆ หากเทียบกับรถยนต์ทั่วไปที่อัตราการกินน้ำมันจะเป็น km/ลิตร นั่นเอง พอเข้าใจอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าในเครื่องยนต์แล้ว เพื่อน ๆ จะได้เลือกสเปครถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ถูกใจ และเหมาะสมกับการใช้งานในระยะยาวด้วยครับ!
5.รู้เรื่องการชาร์จแบตเตอรี่
วิธีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ การชาร์จแบบ AC ไฟฟ้ากระแสสลับหรือ Normal Charge และ การชาร์จแบบ DC ไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งทั้ง 2 แบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
การชาร์จแบบ AC ไฟฟ้ากระแสสลับหรือ Normal Charge เป็นการชาร์จไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กตามบ้านทั่วไป หรือชาร์จผ่านเครื่อง Wall Charger ที่ติดตั้งไว้ ซึ่งกระแสไฟที่เข้าไปที่ตัวรถจะผ่าน On Board Charger ก่อนจะแปลงไฟฟ้ากระแสสลับ AC เป็นไฟฟ้ากระแสตรง DC เพื่อชาร์จเข้าแบตเตอรี่ โดยตัว On Board Charger ในรถจะเป็นตัวกำหนดว่ารถคันนั้นจะชาร์จแบบ AC ได้ช้าหรือเร็ว โดยขนาดจะไม่เท่ากันตามแต่ละรุ่น และแบรนด์ ทำให้ระยะเวลาในการชาร์จด้วยระบบ AC กินเวลานานเป็นชั่วโมง แตกต่างกันไป
ส่วนการการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง หรือ DC Fast Charge คือการชาร์จกระแสไฟเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์โดยตรง ไม่ต้องผ่านการแปลงจาก On Board Charger ทำให้ระยะเวลาในการชาร์จน้อยลง เฉลี่ยประมาณ 25-40 นาที แต่มีข้อเสียคือ ชาร์จแบบ DC เป็นบ่อยๆ โอกาสจะที่แบตเตอรี่เสื่อมก็ยิ่งจะมีมากยิ่งขึ้น
6.หมั่นหาสถานีชาร์จแบตเตอรี่
แหล่งชาร์จแบตเตอรี่ที่ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นการชาร์จแบบ AC ที่บ้าน แต่เพื่อน ๆ ต้องดำเนินการเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าติดตั้ง EV Charger เนื่องจากมาตรฐานส่วนใหญ่ของมิเตอร์ไฟฟ้าภายในที่อยู่อาศัย จะใช้แบบ 5(15)A หรือ 15(45)A มีกำลังจ่ายไฟเพียงพอต่อการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) โดยทั่วไปใช้กำลังไฟสูงถึง 32A หากบ้านหนึ่งหลังใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหลายอย่างพร้อมกัน อาจทำให้กำลังไฟไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้ไฟตกได้ ดังนั้น หากไม่สะดวกที่จะติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน เพื่อน ๆ จะต้องหมั่นหาสถานีชาร์จแบตเตอรี่ และวางแผนการเดินทางให้รัดกุม เผื่อกรณีที่แบตเตอรี่หมดแบบฉุกเฉิน เช่น มีสถานีชาร์จระหว่างเดินทางไปที่ทำงานกี่แห่ง เพื่อที่จะได้แวะชาร์จแบตก่อนไป - กลับในทุก ๆ วัน ปัจจุบันมีสถานีชาร์จที่พร้อมให้บริการตามปั๊มน้ำมัน หรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ทั่วไทย หรือสามารถเช็กแอปพลิเคชั่นสำหรับหาพิกัดแหล่งชาร์จแบตรถยนต์ EV ได้แล้ว
7.เตรียมพร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย
รถยนต์ไฟฟ้า ซื้อมาแล้วใช้งานในระยะยาวถือว่าคุ้มค่ามากกว่ารถยนต์ทั่วไป หากรู้จักจัดการบริหารให้เป็น อย่างที่กล่าวไปในข้อที่แล้วว่าหากซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน อาจต้องคำนึงถึงความจำเป็นทั้งในด้านระยะทาง ความจุแบตเตอรี่ สถานีชาร์จ การติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ซึ่งทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับเม็ดเงินในกระเป๋า
หากเพื่อน ๆ วางแผนให้ดี การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้ประหยัดเงินขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน แล้วเอาเงินมาบริหารเกี่ยวกับปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นเช่น ค่าไฟสำหรับชาร์จแบต ซึ่งค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรอบก็อาจแตกต่างกันออกไปตามจุดให้บริการ เช่น ถ้าเพื่นอ ๆ ติดมิเตอร์แบบ TOU (Time of Use) ชาร์จในช่วง Off Peak ค่าไฟจะอยู่ที่ประมาณ 2.60 บาท/หน่วย (1 หน่วยไฟฟ้า = 1 kWh) หรือเลือกไปชาร์จตามสถานีชาร์จ ตามเวลา On Peak ค่าบริการจะอยู่ที่ประมาณ 6-7 บาท/หน่วย ส่วนเวลา Off Peak วันปกติ ช่วงเวลา 22.00-9.00 น. ส่วนวันหยุดต่าง ๆ เสาร์ อาทิตย์ ค่าบริการประมาณ 4 บาท/หน่วย
8.หาประกันรถยนต์ไฟฟ้า
สิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับมือใหม่ อยากได้รถยนต์ไฟฟ้า EV คือ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า เพราะเราต่างการต้องการการคุ้มครองที่ให้ได้ทั้งตัวรถยนต์ และคนขับ พร้อมทั้งคู่กรณี การใช้รถยนต์ ใช้ถนนร่วมกับคนอื่น แม้ว่าเพื่อน ๆ จะมีความระมัดระวัง ขับรถอย่างมีสติ ไม่ประมาทแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรมากันรันตีว่าวันหนึ่งจะไม่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น Mr.OOHOO ขอแนะนำประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 สำหรับ มือใหม่หัดขับรถยนต์ไฟฟ้า EV เพื่อที่จะได้รับความคุ้มครองสูง ๆ และบริการ Raodside Assistance ที่ติดมากับประกันรถยนต์ ใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หากไม่รู้ว่าจะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี? แนะนำให้เข้ามาที่ OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์ออนไลน์ ที่สามารถเช็กราคาเบี้ยได้ทันใจภายในไม่กี่วินาที มีตัวเลือกหลากหลายจากบริษัทประกันชั้นนำยอดนิยม ผ่อนจ่าย 0% รับกรมธรรม์ออนไลน์ คุ้มครองทันทีหลังกดซื้อ ดีและสะดวกขนาดนี้ อย่ารอช้า รีบหาประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้รถยนต์คันโปรดคู่ใจของเพื่อน ๆ กันเลย!
ที่มาข้อมูล : ananindustry