31 May 2024
การวางแผนก่อนเดินทางไปต่างประเทศมีหลายอย่างที่ต้องเลือกตัดสินใจ หนึ่งในนั้น คือ “การจับจ่ายใช้สอย” แม้ว่าปัจจุบัน เทคโนโลยีทางการเงินจะอำนวยความสะดวกให้เรามากมายแค่ไหน แต่วิธีการทั้งหมดจะมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป สิ่งจำเป็นคือการชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย เพื่อให้การจับจ่ายใช้สอยในต่างประเทศมีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับสภาพคล่องการเงินของเรา
บทความนี้ Mr.OOHOO มาเทียบข้อดี ข้อเสียของ บัตรเครดิต บัตรเดบิต และ Travel Card ให้ดูกันชัด ๆ เลยว่า เที่ยวยังไงให้คุ้ม ใช้แบบไหนดีกว่ากัน!
ทริปวันหยุดนี้จะขาดสิ่งสำคัญอีกอย่างไม่ได้เลย นั่นก็คือ ประกันเดินทางต่างประเทศ คุ้มครองตั้งแต่วันแรกยันวันสุดท้าย เจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ ไฟล์ทดีเลย์ยังไงก็ไม่หวั่น เช็กราคาประกันได้ที่หน้าเว็บไซต์ OOHOO.io ได้เลย มีให้เลือกหลายแพ็กเกจ ราคาเริ่มต้น 250 บาทเท่านั้น
Credit card - บัตรเครดิต
ข้อดี
- สามารถจ่ายเงินตามสะดวกภายในวงเงินที่กำหนด รอใบแจ้งหนี้ทีเดียว และค่อยจ่ายเงินตามกำหนดวันชำระ
- บัตรเครดิตบางธนาคารมีโปรโมชั่นพิเศษให้สำหรับผู้ถือบัตร เช่น ฟรีประกันการเดินทาง สิทธิใช้บริการเลาจ์ของสนามบิน เป็นต้น
- ความปลอดภัยในการซื้อของราคาสูง ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงถือเงินสดจำนวนมาก
ข้อเสีย
- ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ โรงแรมในบางประเทศอาจไม่รับจ่ายด้วยบัตรเครดิต สังเกตจากประเภทบัตร VISA, MasterCard
- ความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นค่าเงินบาท ส่วนใหญ่ร้อยละไม่เกิน 2.5
- เสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดมาใช้ในต่างประเทศ
Debit - บัตรเดบิต
ข้อดี
-ใช้กดเงินสดในตู้ ATM ใช้ในต่างประเทศเวลาฉุกเฉินได้
-ใช้จ่ายเงินได้เหมือนบัตรเครดิตแต่จะหักออกจากบัญชีที่ผูกไว้อัตโนมัติในทันที
-ควบคุมเงิน หรือค่าใช้จ่ายในต่างประเทศเท่าที่มีกำลังจ่ายได้
ข้อเสีย
-เงินจะถูกตัดในบัญชีทันที ต้องมีเงินในบัญชีไว้เพียงพอและครอบคลุมสำหรับใช้จ่ายทั้งหมดในต่างประเทศ
-หากมีข้อผิดพลาด หรือยกเลิกการซื้อสินค้า ระยะเวลาในการได้รับเงินคืนอาจยืดยาวข้ามเดือน
-การทยอยกดเงินสดตู้ ATM ต่างประเทศจะมีค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการแลกเงินกับธนาคารทั่วไป
-การใช้บัตรเดบิตกดเงินสดซื้อของ อัตราค่าแลกเปลี่ยนสกุลเงินผันผวนสูงถึงร้อยละ 1-2.5 จากยอดคงเดิม
Travel Card
ข้อดี
-เป็นบัตรที่สามารถเติมเงินเข้าไปได้ สามารถควบคุมเม็ดเงินที่มี ไม่ปะปนกับยอดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
-แลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ต้องการได้ ไม่ต้องเสียค่าความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินในแต่ละวัน
-แลกสกุลเงินไว้ใช้ล่วงหน้าได้ในวันที่อัตราแลกเปลี่ยนกำลังดี
ข้อเสีย
-ไม่สามารถยกเลิกหรือเรียกเงินคืนเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น บัตรจะตัดเงินไปโดยอัตโนมติ
- มีค่าธรรมเนียมในการออกบัตร และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปี
-มีข้อจำกัดเรื่องสกุลเงิน ซึ่งส่วนใหญ่ Travel Card จะรองรับสกุลเงินในประเทศท่องเที่ยวหลัก ๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยูโร (EUR) เยนญี่ปุ่น (JPY) ส่วนประเทศอื่น ๆ อาจต้องเช็กรายละเอียดอีกครั้ง
ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้
การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที
เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ
ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม
รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์
เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ
เที่ยวยังไงให้คุ้ม ใช้บัตรแบบไหนดีกว่ากัน?
จากการเปรียบเทียบข้อมูลในตารางด้านบน บัตรเครดิตจะมีข้อได้เปรียบในเรื่องวงเงินกองทุนที่มากกว่าตัวเลือกอื่นๆ แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศยังคงเป็น Travel Card
Travel Card มีข้อดีหลายอย่างที่บัตรเครดิตทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการล็อคอัตราแลกเปลี่ยน ใช้สกุลเงินต่างประเทศได้หลายสกุล ไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างประเทศ การจัดการบัญชีออนไลน์ และตัวเลือกสำหรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน ทำให้บัตรเดินทางเป็นตัวเลือกที่สะดวกและคุ้มค่า ให้ความอุ่นใจและความยืดหยุ่นในระหว่างการเดินทางมากกว่าบัตรประเภทอื่น ๆ
วิธีที่ดีที่สุดในการจ่ายเงินในต่างประเทศควรเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนทริปท่องเที่ยวในวันหยุด เพื่อน ๆ จะได้เอ็นจอยกับช่วงวันพักผ่อนที่แสนพิเศษแบบไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องความผันผวนของค่าเงิน ไปเที่ยวทั้งทีต้องวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อม เกิดเหตุไม่คาดฝัน เจ็บป่วย โดนปล้นจี้ กระเป๋าสูญหาย หรือเที่ยวบินถูกระงับ มั่นใจได้ว่าได้รับการดูแลและคุ้มครองอย่างเต็มที่ มี ประกันเดินทางต่างประเทศ เอาไว้ คุ้มครองสูง เดินทางไปคนเดียว หรือเที่ยวยกแก๊งค์ก็ปลอดภัยหายห่วง
OOHOO.io ประกันออนไลน์มีแพ็กเกจประกันเดินทางมากมาย เลือกซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเบา ๆ เริ่มต้นที่ 250 บาท เบี้ยราคาหลักร้อย แต่คุ้มครองสูงหลักล้าน อย่ารอช้า ไปเลือกซื้อประกันเดินทางก่อนแพ็กกระเป๋ากันได้เลย!
ที่มาข้อมูล : travelex.com / lotussm