ถึงเวลา ต่อพ.ร.บ. รถยนต์ แล้วหรือยัง..!?
เพื่อน ๆ เคยสงสัยมั้ยครับว่า ถ้าเราต่อพ.ร.บ. รถยนต์ แล้วจำเป็นต้องต่อประกันรถยนต์ด้วยไหม? ทั้งสองอย่างให้ความคุ้มครอง เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? Mr.OOHOO รวมข้อมูลฉบับอัปเดตมาให้แล้วในบทความนี้
พ.ร.บ. รถยนต์ คือ อะไร?
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภัยภาคบังคับ จำเป็นต้องต่อพ.ร.บ. รถยนต์ทุกปี หากนำรถยนต์ไปใช้โดยที่ไม่มีหรือไม่ได้ต่อพ.ร.บ. รถยนต์ จะถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่ง พ.ร.บ. รถยนต์ จะให้ความคุ้มครองและรับผิดชอบต่อความเสียหายของผู้ประสบภัยจากรถยนต์ หากเกิดอุบัติเหตุขณะใช้ยานพาหนะ พ.ร.บ. รถยนต์จะคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลและค่าสินไหมทดแทนทั้งคนขับ ผู้โดยสาร และคู่กรณี
พ.ร.บ. รถยนต์ คุ้มครอง “คน”
พ.ร.บ. รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง ?
คุ้มครอง “คน” หมายความว่า พ.ร.บ. รถยนต์ให้ความคุ้มครองต่อ ชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้ประสบภัยจากรถยนต์ที่มี พ.ร.บ. รถยนต์ โดยแบ่งความคุ้มครองต่อความเสียหายออกเป็น 3 กรณี ได้แก่
1.ประสบอุบัติเหตุจนบาดเจ็บ
-รับค่าเสียหายเบื้องต้น 30,000 บาทต่อครั้ง
-รับค่าสินไหมทดแทน 80,000 บาทต่อครั้ง
-รับค่าชดเชยรายได้ 200 บาทต่อวัน
2.ประสบอุบัติเหตุจนพิการถาวร
-รับค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาทต่อครั้ง
-รับค่าสินไหมทดแทน 50,000 บาทต่อครั้ง
3.ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต
-รับค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาทต่อครั้ง
-รับค่าสินไหมทดแทน 50,000 บาทต่อครั้ง
ราคาพ.ร.บ. รถยนต์นั่ง/บรรทุก ใช้งาน ส่วนบุคคล
-รถเก๋ง/กระบะ 4 ประตู เสียค่า พ.ร.บ. รถยนต์ 645.21 บาทต่อปี
-รถกระบะ 2 ประตู เสียค่า พ.ร.บ. รถยนต์ 967.28 บาทต่อปี
-รถตู้ เสียค่า พ.ร.บ. รถยนต์ 1,182.35 บาทต่อปี
ประกันรถยนต์
เป็นตัวช่วยรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวเมื่อเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ เช่น อุบัติเหตุบนท้องถนน น้ำท่วมรถจากภัยธรรมชาติ บริษัทประกันจะช่วยชดเชยความเสียหายตามความคุ้มครองในกรมธรรม์ ซึ่งเราสามารถเลือกความคุ้มครองได้เองไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 2, ชั้น 3+ หรือชั้น 3 ที่ให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน
