04 Feb 2025
เพราะการไปเที่ยวชิล ๆ มันช่วยฮีลจิตใจ ช่วงนี้มีใครอยากลายาวไปเที่ยวต่างประเทศกันบ้าง? ถ้าอยากใช้เวลาให้คุ้มค่าในหนึ่งทริป ประเทศมาเลเซียก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะอยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลเรานี่เอง นั่งเครื่องบิน 2-3 ชั่วโมงก็ถึงที่หมายแบบสบายใจ แถมคนไทยเดินทางเข้ามาเลเซียได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ได้นานถึง 30 วัน
ใครวางแผนเที่ยวมาเลเซียแต่ยังไม่มีไอเดียจัดทริป Mr.OOHOO แนะนำให้ลองไปช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคมลองดู เพราะอากาศกำลังดี มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้เลือกชม ตั้งแต่ คาบสมุทรมาเลเซีย (Peninsular Malaysia) ไปจนถึงเกาะบอร์เนียว (Borneo) ซึ่งแต่ละแห่งมีธรรมชาติ วัฒนธรรม และประเพณีที่แตกต่างกัน มาดูกันว่า เที่ยวมาเลเซีย มีอะไรที่ต้องรู้ก่อนไป ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูพร้อมกันเลยครับ
1.ภาษาและการทักทาย
แม้ภาษามาเลย์จะเป็นภาษาราชการ แต่ภาษาอังกฤษถือว่าใช้กันแพร่หลายมาก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ หากเพื่อน ๆ ต้องการทำให้คนท้องถิ่นประทับใจ ลองพูดคำทักทายพื้นฐานอย่าง Selamat pagi (เซอ-ลา-มัต ปา-กี) ที่แปลว่า สวัสดีตอนเช้า หรือหากพบชาวมุสลิม ให้ทักทายด้วยคำว่า Salam (ซาลาม) พร้อมการแตะมือเบาๆ หรือใช้มือทาบหน้าอกเพื่อแสดงความเคารพ เป็นการแสดงออกที่สุภาพหรือ Terima kasih (เตริมา กะชิ) แปลว่า ขอบคุณ ก็จะดูน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับชาวท้องถื่นเลยทีเดียว
Fun fact อีกอย่างของภาษามาเลเซีย คือคำว่า "Lah" ที่ใส่ท้ายประโยคเสมอ "Don't worry lah!" บางทีฟังดูแล้วงงหน่อย แต่ก็ชวนขำไม่เบา
2.ค่าเงินริงกิตและเคล็ดลับการจ่ายเงิน
เงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) มีมูลค่าแปรผันกับอัตราแลกเปลี่ยนสากล โดย 1 ริงกิต เท่ากับ 7 บาทไทยโดยประมาน เพื่อน ๆ สามารถใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตได้ในเมืองใหญ่ แต่ในชุมชนหรือเกาะเล็กๆ เลือกจ่ายด้วยเงินสดจะสะดวกกว่า เคล็ดลับเพิ่มเติมคือควรหลีกเลี่ยงการแลกเงินที่สนามบิน เพราะค่าธรรมเนียมอาจจะสูงกว่าปกติ แนะนำให้ใช้ตู้เอทีเอ็มกดเงินสดในเมืองแทน
*อัปเดตข้อมูลเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2567
3.ศาสนาและความเชื่อ
กว่า 60% ของประชากรมาเลเซียเป็นชาวมุสลิม ซึ่งกฎระเบียบทางศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน การเข้าเยี่ยมชมมัสยิด ควรแต่งกายสุภาพ ปกปิดหัวไหล่และขา แต่ถึงแม้จะเป็นประเทศมุสลิม แต่มาเลเซียมีการแต่งตัวแบบมีสไตล์มาก ผู้หญิงที่ใส่ฮิญาบมักเลือกสีสันสดใสและแฟชั่นอินเทรนด์ นอกจากนี้ มาเลเซียยังมีเทศกาลทางศาสนาที่หลากหลาย เช่น ฮารีรายอ (Hari Raya Aidilfitri) ซึ่งเป็นวันสำคัญของชาวมุสลิม
4.ระดับความเผ็ดที่ต้องเตรียมตัว
อาหารมาเลเซียมีรสชาติเข้มข้นและเต็มไปด้วยเครื่องเทศ เช่น นาซีเลอมัก ข้าวมันกะทิที่มักเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง เช่น ไข่ต้ม ซอสซัมบัลเผ็ด และปลากรอบ,รอจัก (Rojak) หรือสลัดผลไม้ที่ปรุงรสด้วยน้ำจิ้มเฉพาะตัว หรือจะลองโรตีชานัย โรตีกินคู่กับน้ำชาก็ฟินไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลสดใหม่ตามชายฝั่ง ซึ่งรสชาติส่วนใหญ่จะติดเผ็ดแบบแสบลิ้นทีเดียว
*ซอสซัมบัล จะทำให้เพื่อน ๆ น้ำตาไหลและหัวเราะไปพร้อมกัน ถ้าไม่คุ้นเคยกับความเผ็ดร้อนขนาดนี้ โปรดเตรียมเครื่องดื่มเย็นๆ ข้างตัวไว้
ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้
การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที
เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ
ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม
รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์
เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ
5.จิบชาพร้อมของหวานที่ร้านมามัก
ร้านอาหารมามัก(Mamak) เป็นเหมือนกับร้านขายอาหารในร่มที่เปิดโล่ง สถานที่รวมนักท่องเที่ยวสายกิน แนะนำให้ลองสั่งโรตีจานใหญ่ๆ และ “เตห์ตาริก” ฟีลเหมือนชาใต้ที่เป็นเอกลักษณืเรื่องการของชง ร้านมามักเปรียบเสมือนศูนย์รวมของคนทุกเชื้อชาติที่มาแชร์ประสบการณ์ชีวิต ลองนั่งคุยและท้าประลองใครจะดึงชาได้สูงกว่ากัน!
6.แลนด์มาร์คที่ต้องไปให้ได้
เมื่อมาเยือนมาเลเซีย ตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Twin Towers)คือจุดนัดพบที่พลาดไม่ได้ ตั้งใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่ตึกแฝดธรรมดาๆ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ตัวตึกมีความสูงถึง 452 เมตรและสถาปัตยกรรมที่สวยสะดุดตายิ่งถ้าได้ลองไปชมวิวตึกแฝดในตอนกลางคืนที่ไฟส่องสว่างเต็มตึกจะทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในฉากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเลยล่ะ
ถ้าลองขึ้นไปที่ Skybridge ซึ่งเป็นสะพานลอยที่เชื่อมตึกทั้งสอง เพื่อนๆ ยังจะได้สัมผัสประสบการณ์จากมุมสูงสุดของเมือง แถมยังมีวิวรอบด้านให้ถ่ายรูปแบบไม่มีที่สิ้นสุด! ใครชอบช้อปปิ้ง ที่นี่ก็มีห้าง Suria KLCC ให้เดินช้อปเพลินๆ หรือลองเดินเล่นในสวน KLCC Park ที่มีน้ำพุเต้นระบำยามเย็น รับรองว่าฟินแบบครบเครื่อง! 7.การเดินทางที่แสนสะดวกสบาย
ถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าต้องเช่ารถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ เพื่อการเดินทางเหมือนกับการไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ ในเอชียล่ะก็ มาเลเซียมีระบบคมนาคมที่สะดวกกว่านั้น ถ้าเลือกเดินทางข้ามจังหวัด ให้ใช้รถไฟ KTM Komuter หรือรถไฟฟ้า LRT ในเมืองกัวลาลัมเปอร์เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและประหยัดเวลามากที่สุด คล้ายกับรถไฟฟ้า BTS บ้านเรา หรือถ้าต้องการเดินทางไกลไปยังเมืองอื่น เช่น ปีนัง (Penang) หรือ โกตาคินาบาลู (Kota Kinabalu) สามารถเลือกใช้เที่ยวบินภายในประเทศของสายการบินที่ให้บริการได้ เช่น AirAsia หรือ Malaysia Airlines
ส่วนใครที่เป็นสายผจญภัยอยากลองเช้ารถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์เพื่อชิมวิวรอบเมืองก็สามารถทำได้ แต่ระวังเรื่องวัฒนธรรมการขับขี่ให้มาก ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในมาเลเซียมีจำนวนมาก ขับสวนเลนเยอะ การขับขี่จึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง และเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวทุกครั้ง ทั้งนี้คนมาเลเซียเป็นนักบิดสายซิ่ง ขับรถเร็วมาก แถมยังสามารถวิ่งเลนขวาได้ แต่ต้องระวังรถด้านหลัง เพราะที่นี่จะไม่ขับแซง แต่จะใช้วิธีการขับจี้ และเปิดไฟใส่ให้เรารู้ตัว
Fun Fact ราคาน้ำมันที่มาเลเซียค่อนข้างถูก แต่ถ้าเพื่อน ๆ ขับรถไม่ไกลเกิน 150 กม. สำหรับคนไทยจะให้เติมได้แค่ 20 ลิตร
เดินทางใกล้ ไกล ป้องกันและปลอดภัย ต้องมีประกันเดินทางติดตัวไปด้วย เพื่อให้เพื่อน ๆ เที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องฉุกเฉิน ประกันเดินทางต่างประเทศให้ความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย อุบัติเหตุไม่คาดฝัน เที่ยวบินล่าช้า สัมภาระสูญหาย แม้พกระทั่งเอกสารการเดินทางหายก็ยังคุ้มครองครบ
เที่ยวมาเลเซียทั้งที ต้องมีประกันเดินทางดี ๆ เอาไว้ ที่ OOHOO.io แหล่งรวมประกันออนไลน์ เลือกเทียบเบี้ยง่าย ๆ ทันใจ ไม่ต้องไปหลายเว็บไซต์ ซื้อง่ายตลอด 24 ชั่วโมง ไปคนเดียว หรือเที่ยวยกแก๊งค์ก็มีครบ จบในเว็บเดียว อย่ารอช้า เข้ามาเช็กเบี้ยประกันที่ OOHOO.io ได้เลย
ที่มาข้อมูล : สำนักขาวไทยรัฐ
บทความที่น่าสนใจ
เรื่องน่ารู้ ก่อนไปเที่ยวลาว
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวเวียดนาม
ยาสามัญ ที่ต้องมีติดกระเป๋าขึ้นเครื่องไปต่างประเทศ
เรื่องน่ารู้ของพาสปอร์ต