ประเทศไทย ในช่วงเข้าฤดูร้อน ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนระอุเป็นพิเศษ อุณหภูมิพุ่งสูงโดยเฉพาะช่วงใกล้สงกรานต์ เพื่อน ๆ คนไหนกังวลเรื่องการ จอดรถตากแดดเป็นเวลานาน ก็เตรียมตัวเอาไว้เลย เพราะแสงแดดส่งผลเสียต่อรถยนต์มากกว่าที่คิด! Mr.OOHOO พามาเช็ก ความร้อนจากแสงแดดส่งผลต่อรถของยนต์อย่างไรบ้าง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันความร้อน เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น พร้อมตอบคำถาม จอดรถตากแดดจนไฟไหม้ ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม
6 ปัญหาหลักจอดรถตากแดด
1.ชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- พวงมาลัย และ คอนโซลหน้าแตกร้าว เมื่อโดนความร้อนสะสม
- เบาะหนัง แห้งกรอบ หรือแตกลาย เบาะผ้าอาจซีดจางเร็วกว่าปกติ
2.ชิ้นส่วนยางเสื่อมสภาพ
- ความร้อนทำให้ ยางปัดน้ำฝน และ ยางขอบประตูแข็งกระด้าง ใช้งานได้ไม่นาน
- ยางขอบกระจก มีโอกาสแตกลายจากอุณหภูมิที่สูง
3.ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ เมื่อโดนแดดจ้าเป็นเวลานาน ฟิล์มอาจเกิด ฟองอากาศ สีเปลี่ยน หรือเกิดรอยยับ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
4.ยางรถยนต์เกิดความร้อนสะสม อุณหภูมิสูงทำให้ ลมยางขยายตัว ความดันยางเพิ่มขึ้น ยางรถยนต์เสี่ยงระเบิดได้
5.เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ระบบของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำยาหล่อเย็น อาจระเหยเร็ว ควรตรวจเช็กบ่อย ๆ
6.สีรถซีดจากรังสี UV แสงแดดทำให้ สีเคลือบรถหมอง หรือซีดจางเร็วกว่าปกติ
วิธีป้องกันหากจำเป็นต้องจอดรถตากแดด
1.จอดในที่ร่ม หรือหันหน้ารถออกจากแดด เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร
2.ใช้ม่านบังแดด หรือผ้าคลุมรถ ที่มีคุณภาพ เพื่อลดความร้อนภายในรถ
3.เช็กลมยางเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน
4.เคลือบแก้ว หรือเคลือบสีรถ เพื่อป้องกันความร้อนและรังสี UV
ข้อห้ามสำคัญหากจำเป็นต้องจอดรถตากแดด
ห้ามทิ้ง เด็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถ แม้เพียงไม่กี่นาที เพราะอุณหภูมิในรถอาจพุ่งสูงจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
ห้ามเก็บของที่เสี่ยงระเบิด เช่น แบตสำรอง, กระป๋องสเปรย์, ไฟแช็ก ไว้ในรถยนต์ เพราะสิ่งของเหล่านี้ทำปฏิกิริยากับความร้อน ส่งผลให้เกิดประกายไฟ หรือเป็นต้นเหตุทำให้รถระเบิดหรือไฟไหม้รถได้
จอดรถตากแดดจนไฟไหม้ ประกันคุ้มครองไหม?
การจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน อาจทำให้รถยนต์เกิดความเสียหาย เช่น สีซีด เบาะแตกร้าว ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ หรืออุปกรณ์ภายในละลาย ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนกังวล แต่คำถามคือ ประกันรถยนต์คุ้มครองความเสียหายจากแดดไหม? Mr.OOHOO มีข้อมูลที่น่าสนใจมากฝากกันครับ
กรณีที่ประกันไม่คุ้มครอง
ประกันรถยนต์ ทุกประเภท จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจาก การเสื่อมสภาพตามการใช้งาน หรือการจอดรถตากแดด เพราะถือว่าเป็นเหตุจากธรรมชาติและการใช้งานทั่วไป เช่น สีรถยนต์ซีดจางจากรังสี UV เบาะหนังแตกลาย, ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ, อุปกรณ์ภายในละลายหรือเสื่อมสภาพ เป็นต้น ซึ่งกรณีเหล่านี้ถือเป็น การสึกหรอตามอายุการใช้งาน ไม่นับรวมอยู่ในความคุ้มครองของประกันแต่อย่างใด
กรณีที่ประกันอาจคุ้มครอง
แม้การจอดรถตากแดดจะไม่อยู่ในความคุ้มครองของประกันรถยนต์ทั่วไป แต่หากเกิด เหตุสุดวิสัย ที่เกี่ยวข้องกับความร้อนหรือไฟไหม้ ประกันรถยต์ชั้น 1 อาจพิจารณาให้ความคุ้มครองเป็นบางกรณี เช่น ไฟไหม้รถยนต์ จากอุณหภูมิสูงผิดปกติหรือไฟฟ้าลัดวงจร, แบตเตอรี่ระเบิด หรืออุปกรณ์ในรถเกิดไฟลุกไหม้, ความเสียหายจากน้ำท่วมหลังพายุหรือสภาพอากาศรุนแรง หากเจ้าของรถยนต์สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย
กรณีใดที่ประกันคุ้มครองไฟไหม้รถยนต์?
ตามที่กล่าวไปข้างต้น หากนำรถยนต์ไปจอดตากแดด บริษัทประกันอาจพิจารณาเป็นความจงใจ หรือประมาทของเจ้าของรถยนต์เอง แต่หากพิสูจน์ว่าเป็นอุบัติเหตุก็มีสิทธิ์ในการเคลมประกันได้ ซึ่งใน กรณีที่ประกันคุ้มครองไฟไหม้รถยนต์ อาจแบ่งเป็นสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
1.ไฟไหม้จากอุบัติเหตุ เช่น ชนแล้วเกิดประกายไฟจนลุกไหม้
2.ไฟไหม้จาก ไฟฟ้าลัดวงจรในรถยนต์ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
3.ไฟไหม้จากเหตุจลาจล หรือการลอบวางเพลิง
ประกันชั้นไหนคุ้มครองรถไฟไหม้ ?
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองรถยนต์รถยนต์ชนรถยนต์ในทุกกรณี รวมถึง ไฟไหม้ รถสูญหาย น้ำท่วม และอุบัติเหตุทุกประเภท
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุจากรถชนรถเท่านั้น รวมถึงรถไฟไหม้และรถหาย แต่ต้องเกิดจากสาเหตุที่ระบุในกรมธรรม์ เช่น ไฟไหม้จากอุบัติเหตุ หรือการลอบวางเพลิง
ส่วนประกันชั้น 3+ และประกันชั้น 3 ไม่รับคุ้มครองกรณีรถไฟไหม้
คุ้มครองรถยนต์จากอุบัติเหตุและเหตุไม่คาดฝัน เลือกทำประกันรถนต์ชั้น 1 คุ้มครองสูงสุด รถหาย ไฟไหม้ คุ้มครองค่าใช้จ่ายซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหาย เลือกประกันรถยนต์ที่ใช่กับ OOHOO.io เช็กเบี้ยประกันง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก อย่ารอช้า ประกันรถยนต์ราคาน่ารักรอเพื่อน ๆ อยู่ที่ OOHOO.io
บทความที่น่าสนใจ
เรียกใช้บริการฉุกเฉิน ถือว่า เป็นการเคลมประกันรถยนต์ไหม?
แจ้งเคลมแบบไม่เสียค่า Excess ต้องทำยังไง?
5 เรื่องต้องเช็กก่อนไฟไหม้รถยนต์
ข้อมูลจาก : ขับขี่ปลอดภัย by DLT
